วันวาน

ผมว่า ผมโชคดีนะ ที่ได้เกิดเมื่อ 36 ปีก่อน….ถ้ามาเกิดเอาป่านนี้ ผมคงต้องเล่นเเต่เกมส์คอมพิวเตอร์ ถ้าเพิ่งโตตอนนี้ ผมคงจะต้องหารถซักคันมาใช้ อย่างเลวๆก้ต้องมีมอร์เตอร์ไซค์ซักคัน พร้อมกับมือถือรุ่นล่าสุด ถ้าจะให้ดี ควรมี เเลปท๊อป อีกตัวนึง
 
ในช่วงที่ผมยังเป็นเด็ก เด็กๆรุ่นเดียวกันยังเล่นยิงนก ตกปลาอยู่เลย จะให้หรูหน่อยก็ต้องมี จักรยาน BMX ซักคันนึง ถ้าไม่งั้น ก็ต้องไปสุมหัวเตะบอลกันตอนเย็นๆ บ้านที่ผมอยู่ตอนเด็กๆ อยู่เเถวๆชานเมืองของกรุงเทพฯ หลังหมู่บ้านมีคลองประปาไหลผ่าน ถ้าจับใครปิดตาเเละมาปล่อยไว้เเถวๆนั้น รับรองได้ว่าไม่มีทางรู้ว่า ตรงนั้นเป็นเเค่เขตเเดนระหว่าง กทม กับ นนทบุรี เพราะมันเเลดูเหมือน อยุธยา ชัยนาท สิงห์บุรี ซะมากกว่า
 
ผมว่ายน้ำเป็นเพราะคลองประปานี่เเหละ  น้ำเเสนจะลึก เเละไหลค่อนข้างเชี่ยว ต้นทางของมันอยู่ที่ ประตูน้ำเชียงราก เเถวๆปทุมธานี เเละถ้าเลยจากนั้นไป มันก็คือ เเม่น้ำเจ้าพระยา ดังนั้นอย่าเเปลกใจเลย ถ้าได้เจอปลาเเม่น้ำเเปลกๆ เช่น ปลากา ปลาตะโกก ปลาเทโพ ปลาสังกะวาส(หรือ ปลาเเขยง) ปลาพาคู(ที่หน้าตาเหมือน ปิรันย่า) ฯลฯ มีอยู่ช่วงนึง ที่ผมบ้าตกปลาเอามากๆ มานั่งเฝ้าคันเบ็ดอยู่ที่คลองประปาตั้งเเต่เช้ามืด……เเต่เดี๋ยวนี้ คงทำเเบบนั้นไม่ได้ เพราะมีประกาศห้ามจับสัตว์น้ำในคลองประปาอย่างเด็ดขาด จริงๆเเล้ว เค้าห้ามมานานเเล้วล่ะ เเต่มาปัจจุบันนี้ มาตการเข้มงวดมากขึ้น เเถม มีถนนเลียบคลองประปาเเล้ว การตรวจตราเลยง่ายขึ้น ไม่เหมือนเเต่ก่อนที่ยังเป็นถนนลูกรังขรุขระ
 
บ้านที่เราอยู่ เป็นบ้านจัดสรร ดูเหมือนว่าจะเป็นบ้านจัดสรรรุ่นเเรกๆของประเทศ ถ้าเปรียบเทียบกับบ้านจัดสรร ณ ปัจจุบัน เเน่นอน ดีไซนด์เเบบใหม่ๆมันดีกว่าอยู่เเล้ว เเต่ถ้าเป็นเรื่องของเนื้อที่ บ้านผมกินขาด เดี๋ยวนี้ ถ้าอยากได้เนื้อที่ขนาดนั้น คงต้องจ่ายกันเป็นล้านๆ เมื่อมีเนื้อที่เยอะ  ชาวบ้านเเถบๆนั้น รวมทั้งบ้านของผม เลยมีเนื้อที่มากพอที่จะปลูกต้นไม้ ไอ้พวกไม้ประดับ ผมไม่สนใจหรอก มะม่วง ฝรั่ง ชมพู่ กระท้อน น่าสนกว่าเยอะ บ้านผมปลูกเกือบทุกอย่าง ยกเว้น กระท้อน ไอ้นิสัยของผมมันก็เเปลก ผลไม้ที่บ้านก็มี ดันไม่กิน กลับชอบไปสอยของบ้านชาวบ้าน ผมเคยรับเเขกด้วยมะม่วงของเพื่อนบ้านด้วยซ้ำ  ไอ้เเขกก็กินไปชมไป หารู้ไม่ ว่าผมขโมยมากับมือ
 
ผมเป็นมือหนังสะติ๊กที่เเย่มากๆ ออกไปล่านกกับเพื่อนๆที่ไร ไม่เคยได้ติดมือกลับมาเลย ไอ้เพื่อนก็ยิงได้ยิงเอา พอได้นกมา ก็เอามาปิ้งกินกัน ทำตัวยังกะพวกที่อยู่ตามต่างจังหวัด  ตอนนั้น มันช่างเอร็ดอร่อยเหลือเกิน นกกระจิบตัวนิดเดียวเเบ่งกันกินได้ตั้ง 4-5 คน เเค่เอามาทาเกลือ กระเทียม เเล้วก็ปิ้ง ไม่ก็ทอด
 
จนวันนึง ผมไปเจอ นกกระจิบตัวนึง มาเกาะอยู่บนต้นฝ้ายหน้าบ้าน จังหวะที่หนังสะติ๊กอยู่ในมือพอดี ผมมองหาอะไรซักอย่างมาเป็นกระสุน ผมเจอก้อนดินผุๆก้อนนึง ผมเลยคว้ามันมา ใส่ไว้ตรงกลางระหว่างหนังสะติ๊ก ง้างสั้นๆ เพราะกลัวไปโดนกระจกบ้านตรงข้าม เเละ ปล่อยก้อนดินออก เสียงดัง ปั๊ก!! ผมได้ยินอย่างงั้นจริง ๆ ส่วนนกกระจิบตัวนั้นปลิวตามเเรงกระสุนร่วงลงมาห่างจากผมประมาณ 5 เมตร ผมรีบเดินไปยังจุดที่นกกระจิบร่วงลงมา ผมเห็นมันผงกหัวคล้ายๆกับชักกระตุก เเละ กระอักเลือดออกมา ดูน่าเวทนายิ่งนัก  ผมลองเอื้อมมือไปจับมันดู ตัวมันยังอุ่นๆ เเต่ดูเหมือนว่าจะสิ้นใจเเล้ว  ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ผมคงนึกสนุกถอนขน ทาเกลือ เเต่ไม่รู้มันเกิดอะไรขึ้นกับผม ผมกลับไม่รู้สึกอยากกินมันเเม้เเต่นิดเดียว  และั ผมเลือกที่จะขุดหลุมฝังมันมากกว่า เเละ ตั้งเเต่นั้นมา ผมไม่เคยคิดที่จะยิงนกอีกเลย คงเพราะมันเป็นความตายจะๆหนเเรกที่ผมเคยเห็น
 
มาตอนโตๆนี่เอง ที่ผมเริ่มจะรู้จัก การฆ่าเพื่อนำมาเป็นอาหาร ถึงจะไม่ชอบนัก เเต่บางทีถ้าจำเป็น ผมก็ทำได้ เเต่ก็คงฆ่าได้เเค่ ปลา
 
ผมชอบกินปลา กินมาตั้งเเต่เด็กๆ มายันทุกวันนี้ ไม่เกี่ยง ไม่เลือกว่าเป็นปลาชนิดไหน ปลาซิว ปลาสร้อย ปลาตะเพียน ปลากระดี่ ปลาสลิด ปลาช่อน ฯลฯ นอกจากว่า ปลาประเภทสวยงามอย่าง ปลาเงิน ปลาทอง ปลารักเร่ ปลาคราฟท์ ปลากัด ….ตอนเด็กๆผมเลยสามารถที่จะทนนั่งหลังขดหลังเเข็งเฝ้ารอปลามากินเบ็ดได้โดยไม่รู้จักเบื่อ ตอนเด็กๆอาจจะไม่กล้าฆ่าด้วยตัวเอง ให้คนที่บ้านฆ่าให้ ทำให้กิน ถือว่าเป็นการเเบ่งปันบาปให้เเก่กัน
 
ถ้านอกจาก ฟุตบอล ก็คงเป็น บีเอ็มเอ๊กซ์ ที่ผมออกจะบ้าคลั่งกับมันเอามากๆ ทั้งเล่น ทั้งซ่อมได้เอง  ดูเหมือนกับว่า เด็กเกือบๆทุกคนที่บ้า บีเอ็มเอ๊กซ์ มักจะก้าวไปสู่โลกความเร็ว ไม่ว่าจะเป็น มอร์เตอร์ไซค์ หรือ รถยนต์ เเต่ผมกลับไม่
 
ดังนั้นอย่าเเปลกใจเลย ที่ผมมีเเผลเป็นตามเนื้อตามตัวเยอะเเยะเหลือเกิน ทั้งหมดนั้นมาจาก บีเอ็มเอ๊กซ์ ล้วนๆ หัวเข่าข้างขวาฉีกจนมันจุก เพราะบีเอ็มเอ๊กซ์ตะเกียบหัก เเละ หัวเข่ากระเเทกเข้ากับพื้นซีเมนต์ นิ้วชิ้ข้างขวาถูกฟันของจานจักรยานเเทงทะลุถึงกระดูก เพราะดันอุบัติเหตุตอนใส่โซ่ นี่ยังไม่นับเเผลเป็นตามเเขนตามขาอีกหลายๆเเผล
 
เเต่ถ้ามาคิดดูดีๆ ผมน่ะโชคดีเเล้วที่ได้เเค่เเผลเป็นจาก บีเอ็มเอ๊กซ์ ถ้าเป็น มอร์เตอร์ไซค์ หรือ รถยนต์ ผมคงไม่ได้มานั่งเขียนเสปซอยู่ตรงนี้หรอก
 
ไอ้สิ่งที่ดีที่สุดในวัยเด็กก็คือ ไม่ต้องคิดอะไรไปมากกว่า สนุกไปวันๆ เรียนไปตามหน้าที่  ผมเคยเป็นเด็กค่อนข้างเรียนดี อาจจเป็นเพราะว่า ผมเป็นคนชอบอ่านมาเเต่ไหนเเต่ไร ผมเลยได้เรียนรู้อะไรมากมายกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันที่ส่วนใหญ่จะท่องโลกด้วยตำราในห้องเรียน  เเต่ก็เเปลกที่ผมเรียนไม่จบ เเละ ปฏิเสธห้องเรียนในเวลาต่อมา ถ้าผมรู้ว่าวันนี้ ผมต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง ผมจะไม่ปล่อยเวลาในตอนนั้นไปอย่างเสียเปล่า โอกาสของคนการศึกษาต่ำมันไม่ได้มีมากมายนัก  เเถมยังโดนมองอย่างดูถูกจากคนบางคน เเม้ว่า ผมจะรู้อยู่เเก่ใจว่า ไอ้คนที่ยกตนเหยียบย่ำคนอื่นด้วยดีกรี เป็นคนที่ไม่น่าคบหา ผมก็ยังอดที่จะรู้สึกลึกๆในใจไม่ได้ว่า ผมไม่น่าพลาด
 
อย่างไรก็ดี ผมจะไม่กลับเข้าห้องเรียนอีก …….ดีกรีมันคงไม่สำคัญสำหรับผมอีกเเล้ว  เจียดเงินเอาไว้ให้ลูกเรียนดีกว่า ถึงมันจะยังไม่สาย เเต่มันจะไปสำคัญอะไรล่ะ? คนที่รู้เเล้ว ผิดมาเเล้ว อย่างผม ควรจะมีหน้าที่สนับสนุนลูก เเละ บอกให้เขารู้ว่าอะไรที่มันผิด เเละ อะไรที่เป็นปมด้อยของพ่อมันมาตลอดชีวิต วัยเด็กของผมมันจบไปแล้ว เเต่ลูกกำลังจะก้าวข้ามมันไป หวังว่าเค้าคงไม่เดินตามรอยที่พ่อเคยเดิน
This entry was posted in Uncategorized. Bookmark the permalink.

2 Responses to วันวาน

  1. HONEY says:

    บางคนเรียนมาสูงแต่เอาตัวไม่รอดมีถมไปค่ะ คุณอย่าคิดว่าเป็นปมด้อยเลยนะคะ เห็นด้วยกับความคิดของคุณนะคะ เรื่องลูก เป็นกำลังใจให้ค่ะ

  2. Jamesssssss says:

    แน่นอนจริงๆๆๆๆ พี่กรู   โทรหามั่งเด้อออออออออออออออออออ 

Leave a comment