“i’ve already turned 40 ” ผมบอกกับ steve
” you still look 25 anyways” เเน่ะ…ปากหมาน
” really! i feel not 40 year old ,thank you,its sound good, i will cook you steak tonight” ผมเอากะมันด้วย
” of course, you still dress like a young boy ,wear skinny jean” เเล้วมันก็หัวเราะร่า ฟังดูคล้ายๆหัวเราะเยาะ
“you give me $100 ,i’ll say,you look 20” อี ซันนี่ ร่วมด้วยช่วยอำ
เลข 40 ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกรู้สาอะไรมากมายนักในด้านการเเสดงออก เเต่ลึกๆในใจ ผมก็รู้สึกบ้างเหมือนกัน มันเป็นเหมือนกับอะไรที่มาค้ำคอเรา เพื่อไม่ให้เราเเสดงอะไรเเบบเด็กๆออกมา หรือ ถ้าเราเเสดงออกอย่างไรก็ตามที่ดูไม่สมกับวัย ก็จะมีคำพูดตามมาว่า “เฮ้ย สี่สิบเเล้วนะเว๊ย”
ฝรั่งเค้าบอกว่า วัยสี่สิบ คือ วัยเริ่มต้นของชีวิต เเต่ในความเป็นจริง คนอายุสี่สิบตั้งหลายคนที่ยังตั้งหลักไม่ได้ หรือ บางคนก็ตั้งหลักได้ตั้งเเต่ยังไม่ถึงสามสิบ ของเเบบนี้ ไม่เกี่ยวกับอายุ
เเต่ก็อย่างที่บอก ตัวเลข 40 เหมือนอะไรบางอย่างที่คอค้ำคอเราเอาไว้ ไม่ให้เเสดงออกเเบบเด็กๆ ซึ่งรวมไปถึงเรื่องความคิด ความใฝ่ฝันด้วย คุณจะมาบอกว่า อยากกินไอศครีมก้อนโตๆในวันเกิดให้ใครได้ยิน(เเม้ว่าจะอยากกินจริงๆ) มันคงจะดูไม่งาม ไม่สมวัย คนวัยนี้ ต้องคิดการใหญ่ (เหรอ?)
วันก่อน ผมเข้าเวปยูทู๊บ นึกสนุกก็เลยพิมพ์ keywork “หมอ ลักษณ์ ฟันธง” เข้าไปดูราศีเกิดของตัวเอง หมอลักษณ์เเกบอกว่า ปีนี้ รวยเเน่ ฟันธง!!! ส่วนปีหน้าจะประสบความสำเร็จเรื่องงาน การโคจรของดาวอะไรบางอย่าง ทำมุมกับดาวอะไรบางอย่างทำให้โชคลาภส่องมาถึงเจ้าชะตาชีวิตที่เกิดในราศีมังกร ซึ่งในรอบ 30 ปี จะมีครั้งเดียว…ว้าว
ตั้งเเต่เด็กจนโต ผมฝันมาเยอะมาก เคยฝันอยากจะเป้นนักฟุตบอลระดับดารา (ไม่ใช่ ระดับชาตินะ …ระดับดารา เเบบ เบ๊คเเฮม ไรเงี๊ยะ) ผมเล่นบอลเเบบเอาเป็นเอาตาย จนวันนึง เล่นอีท่าไหนก็ไม่ทราบ กระดูกนิ้วเท้าร้าว ไปๆมาๆเลยหมดความพยายาม หันมาเล่น บีเอ็มเอ๊กซ์ เเทน เเต่ก็ไปได้ไม่ไกล ฝันอยากจะรุ่งเหมือน เเอนโทนี่ ซีเวล นักปั่นผิวหมึก เเต่ยังเเทบจะมองไม่เห็นว่า จะเทียบระดับ กับ วีรยุทธ เมฆส่อน นักปั่นผิวหมึก(เเละ มีชื่อเล่นว่า หมึก)เเชมป์นักปั่น ของบ้าน(ในเวลานั้น)เราได้ยังไง
พอโดขึ้นมา ผมหันไปเล่นดนตรีเเทน เล่นให้ตัวเองฟังได้ จนกระทั่งไปเล่นให้คนอื่นฟัง ตั้งเเต่ระดับวงเหล้า งานเเต่งงาน ไปยันเล่นอาชีพ สมัยที่ผมยังไม่ได้เล่นอาชีพ ผมมีวงเหล้าเป็นเวที ใครๆก็บอกว่า ผมเก่ง เล่นได้สนุก เเละลื่นไหล ผมหลงตัวเองไปหลายปี จนวันหนึ่ง ผมได้มาเล่นอาชีพ กะลาที่ครอบตัวก็เริ่มเผยขึ้นทีละนิดๆ ผมเริ่มมองเห็นความจริงว่า คนที่เก่งกว่าผมเป็นร้อยๆเท่ามีเป็นล้านคน
เเต่คงเพราะผมชอบดนตรี ผมเลยไม่คิดที่จะเบื่อ เเละไม่มีวันที่จะเบื่อ เหมือนที่เคยเบื่อกิจกรรมอื่นๆที่ทำมา จนถึงวันนี้ เเม้ว่าผมจะไม่ได้เล่นดนตรีเป็นอาชีพ ผมก็ยังคงเเต่ง เเละ ทำเพลงของตัวเองเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ เเม้ว่ามันจะไม่มีประโยชน์ในด้านการขาย(เพราะไม่มีใครกล้าซื้อหรอก (ฮา)) เเต่อย่างน้อย มันทำให้ผมรู้สึกว่า ดนตรีไม่ได้จากผมไปไหน
ถ้าหลุดออกมาจากความฝัน หันไปมองรอบๆ ผมคือ ผู้ชายวัย 40 คนหนึ่ง ที่มีสัมมาอาชีพ เป็นคนทำอาหาร มีเมีย มีลูก ที่ต้องดูเเล มีพ่อเเม่ที่เเก่เฒ่าลงทุกวัน ในโลกของความเป็นจริง ผมผ่านวัยของการเป็นผู้รับ มาเป็นผู้ให้ เเม้บางครั้งไม่อยากให้ เเต่ผมจำเป็นต้องให้
วันเก่าๆที่ผมควรจะให้อะไรกับตัวเอง เเละ ยังอยู่ในวัยของคนที่เป็น”ผู้รับ” ผมกลับไม่ได้อะไรเลย เเละ ไม่มีเเม้เเต่ปัญญาที่จะให้อะไรกับตัวเอง….ตลกดี
เเต่วันนี้ ผมไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธการเป็น”ผู้ให้” เเละ ก็เเปลกที่ไม่คิดจะปฏิเสธ
ก็กู 40 เเล้วนี่ หว่า (ใช่มั๊ย?)